เท้าเหม็นเป็นโรคนะเออ แต่ Botox แก้ให้หายได้

4 ปีที่แล้ว
blog
บุคลิกดี! อยู่ก็หล่อ! หน้าก็สวย! แต่พอถอดรองเท้าออกมา กลิ่นเท้าโชยเหม็นมาก หมดกันเลย! เป็นใครก็เผ่นแน๊บแทบไม่ทัน อาการเท้าเหม็นเป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่งนะ วันนี้เรามาดูวิธีบอกลาอาการเท้าเหม็นให้หายขาดกันนะครับ
โรคเท้าเหม็น (Pitted Keratolysis) เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียชื่อ “Micrococcus Sedentarius” ในบริเวณผิวหนังชั้นนอกสุดของฝ่าเท้า ซึ่งชอบความอับชื้น ทำให้เท้าลอก และส่งกลิ่นเหม็นมาก พบได้บ่อยในผู้ที่ใส่รองเท้าหุ้มส้น หรือสวมถุงเท้าเป็นเวลานาน เนื่องจากเหงื่อออกที่เท้ามาก ส่งผลให้ผิวหนังชั้นนอกสุดของฝ่าเท้า เปื่อยยุ่ย และมีค่าความเป็นด่างสูง ทำให้เอื้อต่อการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ลักษณะการติดเชื้อแบคทีเรียจะเกิดรูเล็ก ๆ ปริมาณมากคล้ายรังผึ้งบนฝ่าเท้า เพราะเกิดจากการย่อยผิวของแบคทีเรีย อันเป็นที่มาของ Pitted Keratolysis ที่แปลว่า “ย่อยผิวหนังจนเป็นรู”
เท้าเหม็นสามารถดูแลตนเองเบื้องต้นเพื่อหลีกเลี่ยงได้ และมีวิธีการรักษาให้หายจากรอยโรคนี้ได้ดังต่อไปนี้ เช่น
  1. เลี่ยงการสวมรองเท้าหุ้มส้น หาเวลาถอดรองเท้าให้เท้าได้ระบายอากาศบ่อย ๆ

  2. เลือกถุงเท้าโปร่ง ๆ สามารถระบายอากาศได้ดี เช่น ถุงเท้าที่ทำจากผ้าฝ้าย 100% หรือผ้าคอตตอน เป็นต้น

  3. ซักถุงเท้าด้วยผงซักฟอกที่ผสมยาฆ่าเชื้อ และตากรองเท้ากลางแจ้งในวันที่แดดจัดเป็นประจำ

  4. พยายามทำให้เท้าแห้งอยู่เสมอ หรือเปลี่ยนถุงเท้าบ่อย ๆ ทุกครั้งที่เปียกชื้น

  5. พยายามทำให้เท้าแห้งอยู่เสมอ ใช้ยาทาฆ่าเชื้อ เช่น Clindamycin , Erythromycin, Benzoyl Peroxide ในการรักษา

  6. ทำความสะอาดเท้าด้วยสบู่ที่มีส่วนผสมของยาฆ่าเชื้อ จากนั้นเช็ดให้แห้ง และใช้ผงแป้ง 20% Aluminium Chloride โรยเท้าวันละ 1-2 ครั้งเป็นประจำ แต่หากว่าการดูแลตนเองเบื้องต้นไม่สามารถรักษาให้หายได้ อาการโรคเท้าเหม็นยังคงส่งกลิ่นรุนแรงมาก อาจต้องปรึกษาแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางเพื่อทำการฉีดโบท็อกซ์ (Botulinum Tooxin) เข้าไปที่ฝ่าเท้า เพราะโบท็อกซ์มีคุณสมบัติสามารถออกฤทธิ์โดยการไปยับยั้งสาร Acetylcholine ที่หลั่งออกมาควบคุมระบบประสาทที่ทำให้เกิดการหลั่งของเหงื่อ ซึ่งถ้าอาการเหงื่อออกมากลดลงแล้ว ส่งผลช่วยลดภาวะกลิ่นตัวด้วย โดยการฉีดโบท็อกซ์เข้าไปที่ฝ่าเท้าเพื่อลดเหงื่อที่ออกมากๆ ประมาณ 4-5 เดือนก็จะเห็นผล เท้าเหม็นไม่ใช่ปัญหาของคนที่เป็นโรคนี้อย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อการเข้าสังคม และเป็นปัญหาของคนใกล้ชิดรอบข้างด้วยครับ

Relate Blog Contents